เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวานนี้ อาร์เซน่อล เปิดบ้านเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 เกมนี้เป็นแมตช์สำคัญเพราะใครพลาดพลิกเกมได้ง่าย ๆ อาจหลุดจากเส้นทางลุ้นแชมป์ทันที

1. แมนซิตี้พลิกโหมดรถบัส
ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แมนซิตี้ปีนี้มาในมิติใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เกมนี้ทีมเยือนเน้นตั้งรับแทบตลอดเวลา เหมือนยกโมเดลโชเซ่ มูรินโญ่ มาปรับใช้ เรียกได้ว่า “รถบัสสีฟ้า” จริง ๆ จากปกติที่เป๊ปเน้นครองบอล และโจมตีอย่างเป็นระบบ

2. จังหวะประตูขึ้นนำ 1-0
จังหวะประตูเกิดจากการเล่นแบบรวดเร็วและแม่นยำ ทิจจานี่ ไรน์เดอร์ พาบอลขึ้นเอง ก่อนไหลต่อให้ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ หลุดไปสับด้วยขวาเสียบโคนเสา เป็นการเข้าทำแบบ “ลอบสังหาร” ที่เกิดขึ้นจากความเข้าใจระบบการเข้าทำและการเคลื่อนที่ของตัวรุก ทำให้ได้ประตูในสถานการณ์สวนกลับที่ไม่น่าเกิดขึ้น

3. การปรับโหมดรักษาสกอร์
หลังขึ้นนำ แมนซิตี้ปรับเกมทันที เปลี่ยนระบบจาก 4-1-4-1 เป็น 5-4-1 เพื่ออุดทุกช่องทางเข้าไปในกรอบเขตโทษ บางช่วงแผงหลังยืนกันถึง 7 คนในแนวเดียวกัน ทำให้อาร์เซน่อลเจอปัญหาในการเจาะประตู ถึงแม้จะครองบอลได้มาก แต่จังหวะสุดท้ายแทบไม่สามารถสร้างโอกาสชัดเจน

4. จุดที่พลาดจนโดนตีเสมอ
ในช่วงทดเจ็บ แมนซิตี้เสียสมดุลขณะพยายามสวนกลับเร็ว แผงหลังดันขึ้นสูงเกินไป กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ฉวยโอกาสกระชากบอลขึ้นไปก่อนกระดกข้ามหัว ดอนนารุมม่า เข้าไป เป็นสาเหตุที่ทำให้ทีมเยือนเสียประตูในท้ายเกม

5. ภาพรวมเกมและผลกระทบตารางคะแนน
แม้ทั้งสองทีมแบ่งแต้มกันไป แต่ผลลัพธ์นี้ถือว่ามีประโยชน์ต่อทีมที่อยู่ด้านบน อาร์เซน่อลตามหลัง 5 คะแนน ขณะที่แมนซิตี้ตามหลัง 8 คะแนน เกมนี้แสดงให้เห็นว่าซิตี้สามารถปรับรูปแบบเกมได้หลากหลายและใช้แท็กติกได้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ แต่ยังมีจุดอ่อนให้คู่แข่งฉวยโอกาส

ฟันธง
แมนซิตี้ยังมีระบบและเกมรุกที่น่ากลัว แต่การดันแผงหลังสูงเกินไปทำให้เสียประตูง่าย ส่วนอาร์เซน่อลอาศัยการสวนกลับและความเฉียบคมของตัวรุกแก้เกมได้ทันเวลา




Post a Comment

أحدث أقدم