ลิเวอร์พูล แพ้อีก! 7 นัดหลังแพ้ 6 – ทีมผสมของ “อาร์เน่อ สลอด” พ่ายยับ คริสตัล พาเลซ 0-3 ตกรอบ ลีก คัพ แบบหมดคำแก้ตัว
สถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่อ สลอด เริ่มน่าเป็นห่วงขึ้นทุกที หลังเกมล่าสุดในศึก คาราบาว คัพ (ลีก คัพ) ทีม “หงส์แดง” บุกพ่าย คริสตัล พาเลซ แบบหมดสภาพ 0-3 กลายเป็นการแพ้ 6 จาก 7 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ
แม้จะมีข้ออ้างเรื่อง “การหมุนเวียนผู้เล่น” แต่ในสายตาแฟนบอล นี่คือความพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องที่ไม่มีข้อแก้ตัวเหลือแล้ว
ทีมผสมปนเปของ “สลอด” – เปลี่ยนระบบเล่นหลัง 5 แต่ผลลัพธ์ไม่ช่วยอะไร
ในเกมนี้ อาร์เน่อ สลอด เลือกพักตัวหลักแทบทั้งทีม พร้อมทดลองระบบ “หลัง 5” ซึ่งไม่ค่อยได้ใช้มาก่อน โดยจัดผู้เล่นชุดผสมลงสนามดังนี้
- เซนเตอร์แบ็ก: เอนโด, โกเมส, โรเบิร์ตสัน
- วิงแบ็ก: แรมซีย์ (ขวา), เคอร์เคส (ซ้าย)
- คู่กลาง: นีโอนี กับ แม็คคอลลิสเตอร์
- แนวรุก: เคียซ่า (ขวา), มอร์ริสัน (ซ้าย), ริโอ (หน้าเป้า)
เรียกได้ว่านี่คือ “ทีมสำรองกึ่งเยาวชน” ที่แฟนหงส์แทบไม่คุ้นตา เหมือนเป็นการ “ส่งทีมไปตายหมู่” เมื่อเทียบกับขุมกำลังฝั่งตรงข้าม
พาเลสของ กลาสเนอร์ เน้นเต็มสูบ – ตัวจริงเกือบครบ จัดหนักไม่ออมแรง
ด้าน โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ กุนซือของ คริสตัล พาเลซ เลือกใช้ผู้เล่นชุดใหญ่เกือบครบทีม โดยมีตัวจริงถึง 6 ราย และสำรองที่เป็นแข้งชุดใหญ่ถึง 5 คน
ไฮไลต์ของทีมพาเลส:
- เซนเตอร์แบ็ก: กานโวต์ – ลาครัวส์ – เกฮี
- วิงแบ็ก: มูนยอส (ขวา) และ โซซา (ซ้าย)
- กลาง: คามาดะ จับคู่ วิล ฮิวจส์
- แนวรุก: เอนเคเทียร์, ซาร์, ปิโน
เป็นทีมที่มีสมดุลทุกจุดและเล่นในระบบที่คุ้นเคย ไม่แปลกที่ผลการแข่งขันออกมา “ขาดลอย”
รูปเกม: หงส์แดงวูบวาบช่วงต้น ก่อนโดนลงโทษยับ
ช่วง 20 นาทีแรก ลิเวอร์พูล ยังดูมีพลังและครองบอลได้บ้าง แต่หลังจากนั้นจังหวะเกมเริ่มช้าลง การเชื่อมเกมขาดตอน บอลไปไม่ถึงแนวรุก และการเติมเกมของวิงแบ็กก็ล่าช้า
คริสตัล พาเลซ เล่นเกมรับโซนสองแน่นหนา รอจังหวะสวนกลับ — และมันก็ได้ผล
- นาที 41: คามาดะ เปิดบอลเข้าเขตโทษ มูนยอส จับบอลลั่น โกเมสสกัดพลาด กลายเป็นตั้งให้ ซาร์ ยิงโล่ง ๆ พา พาเลส นำ 1-0
- นาที 49: เกมรับหงส์แดงหลุดอีกครั้ง ปิโน จ่ายทะลุช่องให้ ซาร์ ยิงเข้า 2-0
- ท้ายเกม: ปิโน ยิงปิดกล่อง 3-0 หลัง นัลโล โดนใบแดง
จบเกม ลิเวอร์พูล แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-3 ตกรอบลีกคัพแบบไม่มีข้อแก้ตัว
วิเคราะห์: สลอด “เสี่ยงเกินไป” กับการทิ้งถ้วย
การปรับระบบโดยแทบไม่ได้ซ้อมมาก่อน บวกกับการส่งผู้เล่นสำรองและดาวรุ่งลงพร้อมกันหลายคน ทำให้เกมนี้ดูเหมือน “ทิ้งถ้วย” มากกว่าการ “ให้โอกาส”
ในขณะที่ทีมใหญ่อย่าง แมนฯ ซิตี้, อาร์เซน่อล หรือ เชลซี ยังส่งตัวหลักบางส่วนลงยึดเกมไว้ แต่ลิเวอร์พูลกลับเลือกไม่เน้นแม้แต่น้อย
ผลลัพธ์คือ แพ้แบบไม่มีลุ้น และยิ่งทำให้บรรยากาศรอบทีมดูตึงเครียดขึ้นอีก
เกมต่อไป – ศึกหนักรออยู่ “แอสตัน วิลล่า”
สุดสัปดาห์นี้ ลิเวอร์พูล จะกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก โดยเปิดบ้านพบ แอสตัน วิลล่า ซึ่งฟอร์มกำลังร้อนแรง การตอบสนองของ “สลอด” หลังทิ้งถ้วยใบเล็กนี้ จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่าเขายังควบคุมทีมได้หรือไม่
สรุป
- ลิเวอร์พูล แพ้ 6 จาก 7 นัดหลังสุด
- ฟอร์มในลีก คัพ พ่าย คริสตัล พาเลซ 0-3
- ทีมสำรอง-ระบบใหม่ยังไม่เวิร์ก
- ความกดดันต่อ อาร์เน่อ สลอด เริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
- เกมต่อไปกับ แอสตัน วิลล่า คือ “เกมชี้ชะตา”
إرسال تعليق