เรอัล มาดริด ภายใต้การนำของ ชาบี อลอนโซ่: ยุคแห่งความสมดุลและการทำลายล้าง (2025/2026)
เรอัล มาดริด ในฤดูกาล 2025/2026 ภายใต้การคุมทีมของโค้ชคนใหม่อย่าง ชาบี อลอนโซ่ ได้สร้างผลงานการออกสตาร์ทที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาครองตำแหน่งจ่าฝูงลาลีกา สเปน และทำผลงานได้อย่างสมบูรณ์แบบในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยสถิติชนะรวดในการแข่งขันช่วงต้นฤดูกาล โดยสถิติรวมในทุกรายการ (ณ ช่วงเดือนตุลาคม) แสดงให้เห็นถึงชัยชนะ 11 นัด และแพ้เพียง 1 นัดเท่านั้นจาก 12 นัด สิ่งนี้สะท้อนถึงการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างขุมกำลังระดับโลกที่มีอยู่เดิม กับการเข้ามาของซูเปอร์สตาร์คนใหม่อย่าง คีลิยัน เอ็มบัปเป้
หัวใจสำคัญของฟอร์มอันแข็งแกร่งคือ ประสิทธิภาพในเกมรุกที่สูงมาก และ โครงสร้างเกมรับที่มีระเบียบวินัยมากขึ้น ในลาลีกา พวกเขายิงได้ 20 ประตู เสีย 9 ประตูจาก 9 นัดแรก และใน UCL พวกเขายิงได้ 8 ประตู เสียเพียง 1 ประตูจาก 3 นัด การมาถึงของ เอ็มบัปเป้ (10 ประตูในลีก) และการประสานงานกับ วินิซิอุส จูเนียร์ ทำให้แนวรุกมีความเร็วและอันตรายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อลอนโซ่เน้นย้ำถึงการเล่นที่เน้นการครองบอล การเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว และการเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุก ที่ดุดัน ซึ่งเป็นลายเซ็นทางแท็กติกของเขา
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสถิติที่ยอดเยี่ยม แต่ทีมก็ยังคงมี จุดที่ต้องพัฒนาในด้านความคงเส้นคงวาของเกมรับ ดังที่ปรากฏในการพ่ายแพ้ต่อ แอตเลติโก มาดริด ไปด้วยสกอร์ 2-5 ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า การเสียสมดุลในแดนกลางและการพลาดการเพรสซิ่งสูงสามารถนำไปสู่การเสียประตูได้ง่าย แต่โดยภาพรวม ตัวเลข Expected Goals Difference (xGD) ที่สูง ยังบ่งชี้ว่ามาดริดสร้างโอกาสได้มากกว่าที่คู่แข่งทำได้ และสามารถจัดการกับความเสี่ยงในเกมส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี
โดยสรุปแล้ว ฤดูกาล 2025/2026 นับเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านที่ประสบความสำเร็จของเรอัล มาดริด ภายใต้การนำของชาบี อลอนโซ่ ที่นำมาซึ่งความสมดุลทั้งในเกมรับและเกมรุก ด้วยขุมกำลังที่เต็มไปด้วย "กาลาคติกอสยุคใหม่" ทีมกำลังเดินหน้าอย่างมั่นคงเพื่อทวงคืนบัลลังก์แชมป์ลีกและยุโรปอย่างเต็มตัว การประสานพลังระหว่างนักเตะที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และปรัชญาการทำทีมที่ชัดเจน ทำให้เรอัล มาดริด กลายเป็นตัวเต็งอันดับต้น ๆ ที่ยากจะต้านทานในฤดูกาลนี้
إرسال تعليق