ฤดูกาลนี้ตำแหน่งแบ็กซ้ายของ ลิเวอร์พูล กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่แฟนบอลจับตามอง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เคยสร้างชื่อและประวัติศาสตร์กับทีมมานานตั้งแต่ 2017 แต่การมาของ มิลอช เคอร์เคซ ช่วงซัมเมอร์ ทำให้เจ้าตัวต้องหล่นไปเป็นตัวสำรอง
สถิติและผลงานล่าสุดชี้ให้เห็นว่าฟอร์มของ "ร็อบโบ้" ยังคงไว้ใจได้ แม้ลงเป็นตัวสำรองในเกมกับเชลซีจะมีจังหวะเสียประตู แต่ภาพรวมเขายังคงเป็นตัวเลือกที่มั่นคง ขณะที่ เคอร์เคซ แม้จะมีความสดใหม่และพละกำลังโดดเด่น แต่ยังต้องปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นของกุนซือ อาร์เน่่ อีกมาก
ลิเวอร์พูลดึง เคอร์เคซ มาด้วยเหตุผลชัดเจน — ร็อบโบ้อายุเข้าสู่ 30 ปี ฟอร์มไม่คงที่ การดึงแบ็กซ้ายหนุ่มมาเสริมเพื่อสร้างความสดใหม่ให้ทีม และเคอร์เคซก็เคยเป็นแบ็กซ้ายดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก 2024/25 กับบอร์นมัธ ด้วยสถิติ 6 แอสซิสต์ 2 ประตู และมีสปีดที่เหนือกว่าผู้เล่นส่วนใหญ่
แต่ถ้าเจาะสถิติเกมรับและการจ่ายบอลขึ้นหน้า โรเบิร์ตสันยังเหนือกว่า ค่าเฉลี่ยการส่งบอลต่อเกม 6.38 ครั้ง เทียบกับ เคอร์เคซ 4.29 ครั้งต่อเกม แสดงให้เห็นว่า โรเบิร์ตสัน คุ้นเคยกับระบบ อาร์เน่ มากกว่าและสร้างความมั่นคงในเกมรับได้ดีกว่า
อีกด้านหนึ่ง เคอร์เคซ มีบทบาทเติมเกมรุกได้ดีเฉลี่ย 5.31 ครั้งต่อเกม ขณะที่ โรเบิร์ตสัน ทำ 3.91 ครั้งต่อเกม แสดงให้เห็นว่า เคอร์เคซ เหมาะกับการเล่นเชิงรุกและสภาพร่างกายที่สดใหม่
ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบชัดเจนว่าใครควรเป็นตัวจริง แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าการให้โอกาส โรเบิร์ตสัน กลับมาลงตัวหลัก จะช่วยสร้างความมั่นคงให้เกมทางฝั่งซ้ายของ ลิเวอร์พูล แต่ในขณะเดียวกัน เคอร์เคซ ก็ยังมีเวลาในการปรับตัวเพื่อแย่งตำแหน่งคืนในอนาคต
สรุปแล้ว ลิเวอร์พูลกำลังอยู่ในช่วงปรับทีมครั้งใหญ่ การเลือกแบ็กซ้ายจึงเป็นการบาลานซ์ระหว่าง ความคุ้นเคยและความสดใหม่ — โรเบิร์ตสัน มั่นคงและคุ้นระบบ, เคอร์เคซ สดและรุกได้ไหลลื่น ทั้งสองตัวเลือกมีจุดแข็งชัดเจน ขึ้นอยู่กับว่ากุนซืออยากเน้นความมั่นคงหรือเกมรุกมากกว่าตอนนี้






إرسال تعليق